Please use this identifier to cite or link to this item: http://www.updc.clm.up.ac.th//handle/123456789/2209
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorพงศ์กฤตญา, คำรณ-
dc.date.accessioned2023-08-23T09:29:54Z-
dc.date.available2023-08-23T09:29:54Z-
dc.date.issued2559-
dc.identifier.citationhttp://tdc.thailis.or.th/tdc/browse.php?option=show&institute_code=191&bib=919&doc_type=0&TitleIndex=1en_US
dc.identifier.urihttp://www.updc.clm.up.ac.th//handle/123456789/2209-
dc.description.abstractการศึกษาครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงทดลองเบื้องต้น (Pre-experimental Research) แบบกลุ่มทดลองกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังการทดลอง (One group pretest-posttest design) มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการรับรู้และพฤติกรรมการป้องกันโรคเบาหวาน ก่อนและหลังการเข้าร่วมโปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 และเปรียบเทียบการรับรู้และพฤติกรรมการป้องกันโรคเบาหวาน ก่อนและหลังเข้าโปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 ในเขตโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบ่อแก้ว อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 50 คน ใช้วิธีเลือกตัวอย่างแบบง่าย โดยใช้วิธีจับฉลาก โปรแกรมประกอบด้วย การบรรยาย การสาธิต การฝึกปฏิบัติ การเรียนรู้ผ่านตัวต้นแบบ การจดบันทึกสถานะสุขภาพลงในสมุดคู่มือ การติดตามเยี่ยมบ้าน ใช้ระยะเวลา 12 สัปดาห์ เก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณาและสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ Paired t-test ผลการวิจัยพบว่า ก่อนเข้าร่วมโปรแกรม กลุ่มตัวอย่างมีการรับรู้อยู่ในระดับดี ร้อยละ 54.0 พฤติกรรมการป้องกันโรคเบาหวานอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 88.0 ส่วนโปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมต่อการรับรู้และพฤติกรรมการป้องกันโรคเบาหวาน มีกิจกรรมดังนี้ กิจกรรมที่ 1 การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดยประยุกต์แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรค การใช้ตัวต้นแบบ และฐานความรู้โมเดลอาหาร ทำให้กลุ่มเสี่ยงมีความสนใจในการเรียนรู้กิจกรรม มีการรับรู้โอกาสเสี่ยง การรับรู้ความรุนแรง การรับรู้ประโยชน์ และอุปสรรคในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคมากขึ้น กิจกรรมที่ 2 การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อสร้างเสริมพฤติกรรมการป้องกันโรคเบาหวานผ่านการเรียนรู้จากตัวแบบ และกระบวนการกลุ่ม ทำให้กลุ่มเสี่ยง ได้ฝึกบริหารร่างกาย ฝึกการผ่อนคลาย มีความรู้ในการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ กิจกรรมที่ 3 การให้ความรู้และการฝึกปฏิบัติอาสาสมัครสาธารณสุข เพื่อติดตามเยี่ยมบ้านกลุ่มเสี่ยง ทำให้อาสาสมัครสาธารณสุข มีความรู้และทักษะเรื่องการป้องกันโรคเบาหวานมากขึ้นและมีความพร้อม ในการปฏิบัติงาน กิจกรรมที่ 4 กิจกรรมการกระตุ้น แรงสนับสนุนทางสังคม ทำให้กลุ่มเสี่ยงมีกำลังใจในการทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ได้รับคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพ กิจกรรมที่ 5 การประเมินผล ทำให้กลุ่มเสี่ยงได้รับทราบสถานะสุขภาพของตนเอง มีการให้รางวัลและมอบประกาศนียบัตรให้กับกลุ่มเสี่ยงที่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้ดีขึ้น หลังเข้าร่วมโปรแกรมกลุ่มตัวอย่างมีการรับรู้อยู่ในระดับดีร้อยละ 86.0 พฤติกรรมการป้องกันโรคเบาหวานอยู่ในระดับปานกลางร้อยละ 92.0 การรับรู้และพฤติกรรมการป้องกันโรคเบาหวานก่อนและหลังการเข้าร่วมโปรแกรม พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-value = < 0.001, < 0.001 ตามลำดับ)en_US
dc.description.sponsorshipมหาวิทยาลัยพะเยาen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยพะเยาen_US
dc.subjectโรคเบาหวานen_US
dc.subjectการมีส่วนร่วมen_US
dc.subjectแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพen_US
dc.subjectการป้องกันโรคen_US
dc.subjectจังหวัดแพร่en_US
dc.subjectDiabetesen_US
dc.subjectParticipationen_US
dc.subjectHealth beliefs modelen_US
dc.subjectDisease preventionen_US
dc.subjectPhrae Provinceen_US
dc.titleผลของโปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมต่อการรับรู้และพฤติกรรมการป้องกันโรคเบาหวานของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในเขตโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบ่อแก้ว อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่en_US
dc.title.alternativeEffects of Participatory Learning Program on Perception and Preventive Behaviors of Diabetes Among Type 2 Diabetes Risk Group in Tambon Banborkaew Health Promotion Hospital, Denchai District, Phrae Provinceen_US
dc.typeThesisen_US
Appears in Collections:ระดับปริญญาโท (Master Degree)

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Khumron Pongkittaya.pdfKhumron Pongkittaya2.9 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.