การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์โคโลญจ์

Abstract

ในการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์โคโลญจ์ตลอดวัฏจักรชีวิต ตั้งแต่ขั้นตอนการได้มาซึ่งวัตถุดิบจนถึงขั้นตอนการกำจัดซาก (Business to Consumer: B2C) พบว่า โคโลญจ์ขนาด 80 มิลลิลิตร มีค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์เท่ากับ 302 กรัม คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยขั้นตอนที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด ได้แก่ ขั้นการได้มาซึ่งวัตถุดิบ คิดเป็นร้อยละ 69.24 ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ (209.29 กรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า) และกระบวนการผลิต คิดเป็นร้อยละ 21.81 ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ (65.93 กรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า) ดังนั้น ผู้วิจัยจึงเสนอแนวทางการลดก๊าซเรือนกระจก 3 มาตรการ ได้แก่ มาตรการที่ 1 ลดปริมาณ Bulk (โคโลญจ์ผสมแล้ว) ที่เหลือจากการบรรจุ โดยลดปริมาณการเบิกจ่ายวัตถุดิบ มาตรการที่ 2 ลดปริมาณการเบิกเกินของบรรจุภัณฑ์ (ขวด ฝา จุก และฉลาก) และมาตรการที่ 3 ลดการใช้ไฟฟ้าจากหลอดไฟส่องสว่างในห้องเก็บบรรจุภัณฑ์ โดยเปลี่ยนจากหลอดแสงจันทร์ 400W เป็นหลอด LED 100W ซึ่งจากทั้ง 3 มาตรการ สามารถลดค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ได้ร้อยละ 0.86 (จาก 302 เหลือ 300 กรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า) โดยในภาพรวมสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ร้อยละ 16.04 ของปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยทั้งปี (ลดได้ 19,625.86 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี) และสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ร้อยละ 24.53 ของต้นทุนการผลิตทั้งปี (ลดได้ 135,435.89 บาทต่อปี)