Please use this identifier to cite or link to this item:
http://www.updc.clm.up.ac.th//handle/123456789/1803
Title: | แนวทางการเพิ่มระยะเวลาพำนักค้างคืนของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ชายหาดบางแสน |
Other Titles: | An Approach to the Extension of Time Staying at Bangsean of Thai Tourist |
Authors: | หนุนภักดี, กุลปาลี |
Keywords: | พฤติกรรมนักท่องเที่ยว ส่วนประสมทางการตลาดบริการ องค์ประกอบการท่องเที่ยว การพักค้างคืนของนักท่องเที่ยวที่ชายหาดบางแสน ชายหาดบางแสน นักท่องเที่ยวชาวไทย Tourism behavior Marketing mix Tourism element sufficiency Overnight of tourist in Bangsean Bang Saen Beach Thai tourists |
Issue Date: | 2562 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยพะเยา |
Citation: | http://tdc.thailis.or.th/tdc/browse.php?option=show&institute_code=191&bib=1544&doc_type=0&TitleIndex=1 |
Abstract: | การวิจัยเรื่อง แนวทางการเพิ่มระยะเวลาพำนักค้างคืนของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ชายหาดบางแสน มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาลักษณะประชากรศาสตร์ของนักท่องเที่ยวชาวไทยกับพฤติกรรมและเหตุผลในการตัดสินใจพักค้างคืนที่ชายหาดบางแสน 2) วิเคราะห์ปัจจัยส่วนประสมการตลาดบริการและองค์ประกอบการท่องเที่ยว จากนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางท่องเที่ยวชายหาดบางแสน 3) ศึกษาศักยภาพขององค์ประกอบการท่องเที่ยวและส่วนประสมการตลาดบริการของชายหาดบางแสน 4) นำเสนอแนวทางการเพิ่มระยะเวลาพำนักค้างคืนของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ชายหาดบางแสน การวิจัยครั้งนี้เป็นแบบผสมผสาน (Mixed method research) การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative research) กลุ่มตัวอย่าง คือนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวชายหาดบางแสนจำนวน 384 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ใช้แบบสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) สัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลภาครัฐจำนวน 3 คน ภาคเอกชนจำนวน 8 คน และภาคประชาชนจำนวน 6 คน จำนวนรวม 17 คน ผลการวิจัย พบว่า 1) นักท่องเที่ยวที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีอายุ 20-29 ปี สถานภาพโสดระดับการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ส่วนใหญ่ยังไม่มีรายได้ 2) ข้อมูลพฤติกรรมการท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์ในการเดินทางมาท่องเที่ยวชายหาดบางแสนเพื่อเล่นน้ำทะเลหรือพักผ่อนหย่อนใจ เดินทางมากับครอบครัว โดยรถยนต์ส่วนตัว มามากกว่า 3 ครั้งต่อเดือน ระยะเวลามาเช้า-เย็นกลับ และจะกลับมาท่องเที่ยวชายหาดบางแสนอีก 3) ความสำคัญของส่วนประสมการตลาดบริการกับการตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ชายหาดบางแสน ในภาพรวมอยู่ในระดับมากทุกรายการ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านลักษณะทางกายภาพ รองลงมา คือ ด้านผลิตภัณฑ์ 4) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับองค์ประกอบการท่องเที่ยวกับการตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวชายหาดบางแสน ภาพรวมอยู่ในระดับมากทุกรายการ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ด้านการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว รองลงมา คือ ด้านกิจกรรมทางการท่องเที่ยว และด้านสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว และเหตุผลในการตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวชายหาดบางแสน พบว่า มีเพื่อนร่วมเดินทางในวันพิเศษของตนเอง มีความพร้อมด้านยานพาหนะและชื่นชอบบรรยากาศของที่พื้นที่ชายหาดบางแสนการวิเคราะห์ข้อมูลวิจัยเชิงคุณภาพ เรื่องปัจจัยองค์ประกอบการท่องเที่ยวของพื้นที่ชายหาดบางแสนของผู้ให้ข้อมูลคือ ภาครัฐ และภาคประชาชน ให้ความสำคัญด้านทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลมากที่สุด รองลงมา คือ สิ่งอำนวยความสะดวกและการให้บริการต่าง ๆ ในพื้นที่ ส่วนปัจจัยส่วนประสมการตลาดบริการ ผู้ให้ข้อมูล คือ ภาคเอกชนผู้ประกอบการการท่องเที่ยวให้ความสำคัญด้านผลิตภัณฑ์ธรรมชาติทางทะเลมากที่สุด รองลงมา คือ ด้านราคา และด้านช่องทางการจัดจำหน่ายผู้วิจัยนำเสนอแนวทางการเพิ่มระยะเวลาพำนักค้างคืนของนักท่องเที่ยวชาวไทยในพื้นที่ชายหาดบางแสน ดังนี้ 1) เพิ่มสถานที่พักให้นักท่องเที่ยวแบบบ้านพักริมทะเลหลังเดี่ยวเป็นบังกะโลหรือรีสอร์ท เนื่องจากมีพื้นที่ว่างเป็นลานกว้างอยู่ฝั่งตรงข้ามทะเลบางแสน สามารถเพิ่มทางเลือกให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวแบบครอบครัวใหญ่ หรือแบบผู้ร่วมเดินทางมากกว่า 4 คนขึ้นไป 2) ให้ความสำคัญด้านกิจกรรมเพิ่มเติมในพื้นที่ เช่น เพิ่มกิจกรรมการดูดาวยามค่ำคืนบนเขาสามมุก การวิ่งมาราธอน และกิจกรรมแข่งขันรถยนต์ แนวทางที่ผู้วิจัยนำเสนอสามารถเพิ่มระยะเวลาพำนักค้างคืนของนักท่องเที่ยวชาวไทยในพื้นที่ชายหาดบางแสน และส่งผลให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น |
URI: | http://www.updc.clm.up.ac.th//handle/123456789/1803 |
Appears in Collections: | ระดับปริญญาโท (Master Degree) |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
KUNPAREE NUNPAKDEE.pdf | Kunparee Nunpakdee | 2.27 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.